รวบรวมสูตรอาหาร เมนูอาหาร วิธีการทำอาหาร กลเม็ด เคล็ดลับการทำอาหาร เมนูอาหารมากมาย ตลอดจนความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับอาหารที่เราชื่นชอบ ประวัติและความเป็นมา
Saturday 27 October 2012
ทำให้ผักดูสดใหม่และต้มผักให้มีสีสันน่ากิน
วันนี้อยากขอพูดเกี่ยวกับเรื่องผักๆซักหน่อย หลังจากที่เราได้กินผักราคาสูงในช่วงกินเจ (แต่ผมไม่กินเจ) ทำยังไงที่เราจะรับมือเรื่องนี้ได้ นอกจากที่เราจะหาเรื่องปลูกผักเอง ผมไปเจอบทความที่น่าสนใจเกี่ยวกับการดูแลผักสด และทำให้ผักที่เราซื้อมาทำอาหาร ต้มยังไงให้ดูสดน่ากินมาฝากครับ เผื่อคราวหน้าเราจะ
ได้ผักลวกที่ดูสดมาเป็นเครื่องเคียงในการรับประทานกับขนมจีน โดยไม่เสียความรู้สึกกับผักที่ดูเหี่ยวๆอีกต่อไป
การเก็บผักไว้ในตู้เย็น อาจทำให้ผักดูไม่สด ไม่น่ารับประทาน
วิธีง่ายๆ ที่จะคืนความสดให้กับผักทำได้โดยการเตรียมภาชนะใส่น้ำให้มีขนาดพอเหมาะที่จะแช่ผัก
จากนั้นตัดก้านผักออกบางส่วนโดยต้องตัดใต้ผิวน้ำทั้งนี้เพื่อไม่ให้อากาศเข้าไปอุดตันทางเดินของน้ำ
จากนั้นแช่ผักทิ้งไว้ในน้ำเย็นสักพัก ผักจะกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง น่ารับประทาน
ต้มผักอย่างไร ให้มีสีสันน่าทาน
จะเข้าครัวทำน้ำพริกผักต้ม แต่ต้มผักทีไรประสบปัญหาสีของผักไม่สวยสดน่าทานเหมือนอย่างไปทานที่ร้านอาหารทุกที โดยเฉพาะในยุคปัจจุบันที่เมนูอาหารสุขภาพกำลังเป็นที่นิยม หากผักต้มแล้วสีหมองคล้ำ ก็จะทำให้ความน่ารับประทานลดลง ซึ่งปัญหาเหล่านี้จะหมดไป ด้วยเคล็ดลับในการต้มผักให้ดูมีสีสันน่าทานดังนี้ค่ะ
วิธีที่จะทำให้ผักต้มมีสีสวยงาม คือ นำน้ำสะอาดใส่ในหม้อ กะปริมาณดูว่าพอใส่ผักลงต้มแล้วน้ำจะพอท่วมผักได้ ใส่เกลือป่นลงในน้ำ สำหรับต้มผักสีเขียว ใส่น้ำมันพืชเล็กน้อย จะทำให้ผักมีผิวมันน่าทานยิ่งขึ้น พอน้ำเดือดค่อยใส่ผักลงต้ม กดผักให้จมน้ำ พอผักสุก ให้ช้อนขึ้นจากน้ำ ใส่ในน้ำเย็นพักไว้จนสะเด็ดน้ำ และจัดใส่จานพร้อมเสิร์ฟ ส่วนผักสีขาว เช่น หัวไชเท้า ถ้าอยากให้ผักมีสีขาวสวย ให้ใส่น้ำส้มสายชูลงในน้ำที่ต้ม ผักจะมีสีขาวสวย
ได้ไม่ยากค่ะ
เข้าครัวต้มผักคราวหน้า อย่าลืมนำเคล็ดลับการต้มผักให้สีสันสวยสดไปประยุกต์ใช้กันดูนะคะ
เพราะนอกจากรสชาติของอาหารแล้ว สีสันของอาหารจะช่วยให้อาหารจานนั้นดูน่ารับประทานยิ่งขึ้นค่ะ
ขอบคุณรูปและข้อมูลจาก
http://board.postjung.com/m/573403.html
http://www.cpfamilyclub.com/index.php/lifestyle/portal/content/20602
Tuesday 23 October 2012
แกงขี้เหล็กเห็ดย่าง แกงเห็ด กินแล้วไม่เซ็งเป็ด
แกงขี้เหล็กเห็ดย่าง
จบไปแล้วสำหรับเทศกาลกินเจ พรุ่งนี้ก็ขอกินเนื้อหน่อย แต่ก็ยังไว้ลายรักษาสุขภาพอยู่(ชีวจิต) รสเผ็ดร้อนนิดๆ ขมหน่อยๆ แบบรักสุขภาพกันด้วยเมนูนี้
ส่วนผสม (ingrediant)
ขี้เหล็กต้ม บีบน้ำออก 500 g
น้ำพริกแกงเผ็ด 100 g
กระชายซอย 100 g
ปลากรอบ(เอาแต่เนื้อปลา) 100 g
เห็ดออรินจิ 6 ดอก
น้ำเต้าหู้ 5 ถ้วย
น้ำปลา 1/4 ถ้วย
น้ำตาลปึก 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำมันมะกอก 1/4 ถ้วย
ซีอิ๊วขาวเล็กน้อย
ภาพจาก http://www.sunnahstudent.com/forum/archive.php?topic=561.705 |
ขั้นตอนการทำ
1.หั่นเห็ดออรินจิเป็นชิ้นยาว หนาซัก 1 ซม.
2.เหยาะซีอิ๊วขาวลงบนเห็ด คลุกเคล้าให้เข้ากัน นำไปย่างบนกะทะจนสุก ตักขึ้น หั่นเป็นชิ้นพอ
ดีคำ
3.โขลกปลากรอบจนปลาเนื้อฟู ใส่น้ำพริกแกงลงไปโขลกผสมกันดี
4.ผัดน้ำพริกแกงที่โขลกไว้กันน้ำมันมะกอก จนหอม
5.ใส่น้ำเต้าหู้ลงไป ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาลปึก
6.ใส่ขี้เหล็กและเห็ดย่าง รอเดือด ใส่กระชายลงไป คนให้เข้ากัน เคี่ยวต่อสักพัก ปิดไฟ ตักใส่ถ้วย
tip 1.สำหรับคนไม่ชอบกินขี้เหล็กขม ควรตักขี้เหล็กทิ้งน้ำหลายๆครั้ง หรือเวลาต้มให้ใส่ใบ
มะม่วงหิมพานต์ แก่รองก้นหม้อ ก็จะช่วยให้ขี้เหล็กหายขมเร็วขึ้น
2.การใส่เนื้อปลากรอบจะทำให้แกงมีกลิ่นหอมมากกว่าการใส่เนื้อปลาย่าง
กินอร่อย แถมมีสรรพคุณเป็นยาระบายอ่อนๆ ช่วยให้นอนหลับง่าย
ขอบคุณข้อมูลจากครัวชีวจิตอีกเช่นเคยครับ
มังสวิรัติ-เทโพเต้าหู้ ไม่มีหมูมากวนใจ
แกงเทโพเต้าหู้(มังสวิรัติ)
ช่วงนี้หายหน้าไปนานครับ ติดภารกิจอยู่ เห็นว่าก็ยังอยู่ในเทศกาลกินเจ ผมก็เลยนำสูตรอาหารมังสวิรัตมาฝาก
ส่วนประกอบ (ingredient)
การปรุง
1.เริ่มจากโขลกเครื่องพริกแกง ผัดกับกะทิให้แตกมัน
2.ใส่เต้าหู้ ผักบุ้ง ใบมะกรูด 1 ผลปอกเปลือกออกให้หมด ผ่าออก คั้นกับเกลือให้หมดกลิ่น แล้วนำไปใส่ในแกง ฉีกใบมะกรูดอ่อนใส่ เติมกะทิพอเดือด
3.จากนั้นปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาว น้ำตล น้ำมะกรูด น้ำส้มมะขาม ปรุงรสตามชอบเป็นอันเสร็จกระบวนการ
รูปจาก
http://www.kingdomplaza.com/article/food/news.php?nid=597
ช่วงนี้มีงานสัปดาห์หนังสือ ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิต์ ( 18 -28 ตุลาคม 2555) Book Expo 2012 ใครสนใจได้หนังสือดี ก็ไปดูกันได้ ขอขอบคุณหนังสือทั้งหลายที่เป็นแหล่งข้อมูลให้ blog นี้นนะครับ
ช่วงนี้หายหน้าไปนานครับ ติดภารกิจอยู่ เห็นว่าก็ยังอยู่ในเทศกาลกินเจ ผมก็เลยนำสูตรอาหารมังสวิรัตมาฝาก
ส่วนประกอบ (ingredient)
- พริกแห้ง,หอม
- กระเทียม
- ตะไคร้
- ผิวมะกรูด
- ลูกผักชี
- เกลือ
- ส้มมะขามเปียก
- เต้าหู้เหลืองชนิดแข็ง
- ซีอิ๊วขาว,ใบมะกรูด
- มะพร้าวขูด
- น้ำตาล
การปรุง
1.เริ่มจากโขลกเครื่องพริกแกง ผัดกับกะทิให้แตกมัน
2.ใส่เต้าหู้ ผักบุ้ง ใบมะกรูด 1 ผลปอกเปลือกออกให้หมด ผ่าออก คั้นกับเกลือให้หมดกลิ่น แล้วนำไปใส่ในแกง ฉีกใบมะกรูดอ่อนใส่ เติมกะทิพอเดือด
3.จากนั้นปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาว น้ำตล น้ำมะกรูด น้ำส้มมะขาม ปรุงรสตามชอบเป็นอันเสร็จกระบวนการ
รูปจาก
http://www.kingdomplaza.com/article/food/news.php?nid=597
ช่วงนี้มีงานสัปดาห์หนังสือ ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิต์ ( 18 -28 ตุลาคม 2555) Book Expo 2012 ใครสนใจได้หนังสือดี ก็ไปดูกันได้ ขอขอบคุณหนังสือทั้งหลายที่เป็นแหล่งข้อมูลให้ blog นี้นนะครับ