ข้อเสนอพิเศษ ลองดู

Thursday, 5 September 2013

กำเนิดของบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป

อาหารช่วยชีวิตเวลาหิวของใครหลายคน บางคนนำไปปรับปรุงดัดแปลงเพิ่มความน่าทานตามใจชอบ แต่บางท่านก็ทานเพราะความจำเป็น วันนี้จึงขอพาไปรู้จักกับที่มาที่ไปของบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปกัน

บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป หรือ "มาม่า" ที่คนไทยชอบเรียกกันจนเคยชิน อาหารสำเร็จรูปสุดสะดวก แทบทุกคนต้องเคยพึ่งพาเวลาไม่สามารถหาอาหารอื่น ๆ ทานได้ หรือบางท่านก็ตั้งใจปรุงใส่นั่นใส่นี่ หรือนำเอาไปผัดไปยำจนออกมาหน้าตาน่ารับประทาน แต่เคยรู้กันไหมว่า เจ้าบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปนี้ มีต้นกำเนิดมาจากไหน ผู้คิดค้นบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปขึ้นมา คือ "อันโด โมโมฟุกุ" ชาวญี่ปุ่น ท่านเป็นผู้ก่อตั้งและประธานบริษัทในกลุ่มนิชชิน

ที่มาที่ไปก็มาจากในฤดูหนาวของโอซาก้า มีคนจำนวนมากต่างพากันไปต่อแถวรอกินราเม็นร้อน ๆ ท่ามกลางอากาศที่เย็นจัด อันโดรู้สึกเห็นใจจึงเกิดไอเดียบางอย่างขึ้น เมื่อปี ค.ศ.1958 โดยนำเส้นราเมนที่ได้จากการผสมกับน้ำซุปกระดูกไก่ มาทอดในน้ำมันปาล์มเพื่อไล่ความชื้นออกไป ทำให้เก็บไว้ได้นาน และแค่เพียงเติมน้ำร้อน เส้นก็จะคืนสภาพเดิม สามารถกินได้ทันที ไม่ต้องปรุงอะไรเพิ่มเติมเลย เพราะว่าเส้นผสมกับน้ำซุปกระดูกไก่แล้ว จึงเกิดอาหารที่เรียกว่าบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปขึ้น บรรจุอยู่ในชามที่เรียกกันว่า "ด้ง" ซึ่งค่อนข้างใหญ่เทอะทะ ต่อมาในค.ศ. 1971 จึงพัฒนาให้รับประทานได้สะดวกยิ่งขึ้นในรูปแบบถ้วยสำเร็จรูปมีส้อมใส่ไว้ให้เสร็จสรรพ เวลาจะกินน้ำซุปก็สามารถยกถ้วยขึ้นมาซดได้เลย

บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปได้รับความนิยมไปทั่วโลก เนื่องจากมีวิธีทำที่สะดวกคือเพียงแค่เติมน้ำร้อนก็ทานได้ทันที และที่สำคัญมีราคาที่ไม่แพง ในปัจจุบันมีหลากหลายรสชาติ แล้วแต่ผู้ผลิตแต่ละเจ้าจะคิดค้นขึ้นมาได้ และถึงแม้ "นิชชิน" จะเป็นเจ้าแรกของโลกที่ผลิตบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปขึ้นมา แต่ "มาม่า" เป็นยี่ห้อแรกที่คนไทยรู้จัก จึงเรียกกันจนติดปาก แม้จะมียี่ห้ออื่นเข้ามา แต่ก็ยังเรียกมาม่าจนถึงปัจจุบัน


ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์




No comments:

Post a Comment

ขอบคุณจ้า..