ทิพย์สมัยผัดไท ประตูผี

    ย้อนกลับไปในวันเวลาเก่าๆ มีร้าค้าตั้งโต๊ะเล็กๆ อยู่บนฟุตบาทริมถนนมหาไชย เป็นต้นกำเนิดของร้านผัดไทยที่ขั้นชื่อด้านคุณภาพและรสชาดที่อร่อยที่สุดในกรุงเทพฯ อีกทั้งยังเป็นเจ้าแรกที่คิดค้นสูตรผัดไทยเส้นจันท์ ใส่มันกุ้ง ตามด้วยกุ้งสุด รดเลิศจนต่อมาร้านอาหารหลายตค่อหลายร้านได้ยึดเป็นแม่แบบในการขายผัดไทยมาจนถึงปัจจุบันอีกด้วย และทุกวันนี้หากเอ่ยถึงร้านผัดไทยที่ขึ้นชื่อที่สุดในกรุงเทพฯ เมื่อใด ร้นทิพย์สมัย (ผัดไทยประตูผี) จะต้องอยู่ในรายชื่ออันดับต้นๆ ของผัดไทยเลิศรสอย่างแน่นอน

      อดีตกาลประวัติของร้นทิพย์สมัยนั้น มีจุดกำเนิดมาจากร้านค้าตั้งโต๊ะไม้เก่าๆ โดยมีเตาเล็กๆ หนึ่งใบที่ใช้ในการปรุงแต่รสชาดอาหารตั้งอยู่บนฟุตบาทใกล้กับสี่แยกสำราญราษฎร์หรือที่คนในยุคก่อนเรียกกันว่าประตูผี โดยมีแม่ครัวฝีมือชั้นเลิศอย่างคุณสมัย ใบสมุทรและผู้คิดค้นสูดรที่ได้รับการถ่ายทอดมาจากบรรพบุรุษ ซึ่งแต่เดิมคุณสมัยเป็นคนกระทุ่มเบน จังหวัดสมุทรสาคร ครอบครัวของคุณสมัยมีอาชีพทำสวนทำไร่ รายได้หลักในครอบครัวมาจากผลผลิตที่เก็บเกี่ยวได้ตามฤดูกาล และกิจวัตรประจำวันของคุณสมัยตั้งแต่เด็กจนโตเป็นสาวก็คือ ต้องช่วยมารดาพายเรือขายของตามคลองภาษีเจริญและคลองมหาชัยตั้งแต่เช้ามืดจนพลบค่ำทุกวัน และยังต้องรับจ้างทำงานอีกหลายต่อหลายอย่าง เนื่องจากคุณสมัยอยากจะช่วยให้ครอบครัวมีกินมีใช้โดยไม่ขัดสนเรื่องเงินทอง นอกจากจะเป็นผู้หญิงที่ขยัน อดทน แล้ว คุณสมัยเองก็มีฝีมือในการปรุงแต่งอาหารไม่น้อย เพราะจากความสนใจในการปรุงอาหารตั้งแต่เล็ก พอถึงเวลาทำอาหารเมื่อไร คุณสมัยก็จะรีบเข้าครัวช่วยผู้หลักผู้ใหญ่หยิบจับโน่นนี่ไปเรื่อย และยังได้ฝึกฝนทำอาหารไทยชนิดต่างๆ แต่เล็กจนทำได้หลายอย่าง และแต่ละอย่างที่คุณสมัยทำก็จะมีรสชาดอร่อยตามสูตรอาหารไทยดั้งเดิมอย่างไม่ผิดเพี้ยนอีกด้วย

       ครั้นย่างเข้าสู่วันสาว คุณสมัยได้ตกลงใจแต่งงานกับคุณโชติ ใบสมุทร ซึ่งมีพื้นเพเป็นคนมหาชัย เมื่อออกเรือนแล้ว คุณสมัยได้ย้ายตามสามีมาอยู่ที่มหาชัย ช่วงที่ดำเนินชีวิตอยู่ในครอบครัวนั้นก็ได้ศึกษาหาความรู้ในการปรุงแต่อาหารเพิ่มเติมจากครอบครัวสามีเพิ่มอีกภายหลังจึงมีแนวคิดที่จะประกอบธุรกิจประกอบอาหารขึ้น โดยได้นำฝีมือด้านการปรุงอาหารมาเป็นเครื่องมือในการทำกิน คุณสมัยจึงเริ่มขายผัดไทยจากสูตร ที่ได้ตกทอดมาจากมารดาคุณโชติ นั่นก็คือ ผัดไทยเส้นจันท์ ใส่มันกุ้งใส่กุ้งนางตัวใหญ่ๆ แล้วนำไปห่อไข่จึงทำให้ผัดไทยคุณสมัยถูกปากคนมหาชัยมาก จนเป็นที่รู้กันดีว่ามหาชัยเป็นแหล่งที่มีของกินอร่อยๆ มากมาย คุณโชติและคุณสมัยจึงได้ตัดสนใจก้าวต่อไปข้างหน้าโดยการเข้ามากรุงเทพฯ เพื่อมองหาทำเลขายอาหาร และหลังจากที่ตระเวนอย่างไร้จุดหมายอยู่นานจนเงินที่มีอยุ่เริ่มจะหมด ก็ตกลงใจที่จะเริ่มต้นขายแถวย่านสำราญราษฎร์ (ใกล้สี่แยกประตูผี) เพราะเห็นว่าเป็นทำเลที่เหมาะแก่การขายอาหารที่สุด

       เมื่อได้ทำเลที่ตั้งแล้ว คุณสมัยก็เริ่มขายผัดไทยโดยตั้งโต๊ะเก่าๆ พร้อมเตาถ่ายใบเล็กๆ ยืนผัดอยู่หน้าร้านบนฟุตบาทในทุกค่ำคืนของมหานครเมืองหลวง โดยขายผัดไทยธรรมดาอยู่ที่จานละ 6 สลึง หากใส่ไข่ก็เพิ่ม 2 สลึง เริ่มต้นขายได้ไม่นาน จากที่พอขายได้ก็เริ่มขายดีจนทำไม่ทันทุกวัน และกลายเป็นผัดไทยขึ้นชื่อว่าอร่อยที่สุด แต่ขายอยู่สักพักก็ต้องเลิกไป เพราะถ้าวันไหนฝนตกลูกค้าไม่มีที่นั่งหลบฝนก็จะทำให้ขายไม่ได้เลยทั้งคืน คุณสมัยเองก็อยากจะมีร้านเป็นหลักแหล่งอยู่แล้ว จึงได้ไปขอเช่าที่ร้านในละแวกใกล้เคียงนั้นเพื่อขายผัดไทยในตอนกลางคืน ซึ่งก็ได้ทำให้มีลูกค้าแห่มาอุดหนุนผัดไทยมากขึ้นเป็นเท่าตัวแต่มรสุมก็ยังไม่หมดไปเท่านั้น คุณสมัยมักจะถูกเจ้าของห้องเช่าขึ้นค่าเช่าอยู่บ่อยๆ จนในที่สุดก็ไล่ที่ไม่ให้เช่า เพราะเจ้าของห้องเช่าเห็นว่าผัดไทยขายดีจึงต้องการจะขายเอง คุณโชติและคุณสมัยซึ่งเป็นคนอดทนและไม่ย่อท้อต่ออุปสรรคอยู่แล้วจึงได้ขายผัดไทยต่ออีกครั้ง โดยขายติดกับห้องเช่าเดิมที่มาขายผิดไทยสวมรอย เพราะคุณสมัยกลัวลูกค้าประจำจะเข้าใจผิดว่ายังเช่าที่ของร้านขายผัดไทยอยู่และด้วยความมุ่งมั่น ขยันขันแข็ง และอดออม ดังนั้นหลังจากที่วางขายอยู่ริมถนนอยู่นานหลายปี คุณสมัยและคุณโชติก็สามารถเซ้งร้านที่อยู่ใกล้กับห้องเช่าเดิมได้สำเร็จ จึงถือฤกษ์เปิดร้านในวันที่ 9 กันยายน 2509 เป็นต้นมา เมื่อมีร้านเป็นของตนเองสมใจแล้ว คุณสมัยก็ต้องรับหน้าที่เป็นแม่ครัวอย่างสุดความสามารถส่วนคุณโชติก็พยายามปรับปรุงและเพิ่มสูตรผัดไทยอยู่ตลอดเวลา เพื่อให้ถูกปากลูกค้ามากขึ้น
       โดยคุณโชติและคุณสมัยมีหลัก 2 ประการในการค้าขายคือ 1. อาหารที่ทำจะต้องมีคุณภาพพิถีพิถันในการปรุงแต่งทั้งรสชาด ความสดรวมถึงความสะอาดด้วย 2. จะต้องซื่อสัตย์สุภาพและไม่เอารัดเอาเปรียบลูกค้า ซึ่งจากหลักการง่ายๆ ในการขายอาหารของคุณโชติและคุณสมัย จึงทำให้ร้านผัดไทยทิพย์สมัยสามารถครองใจลูกค้า จนสามารถครองใจลูกค้า จนสามารถยืนหยัดอยู่คู่คนไทยจวบจนปัจจุบัน


Credit.. http://www.thipsamai.com/about.htm