ข้อเสนอพิเศษ ลองดู

Tuesday, 31 July 2012

5 วิธีเก็บขนมจีนที่กินไม่หมดทำอย่างไร



1. การรักษาเส้นขนมจีน  การเก็บรักษาเส้นขนมจีนเพื่อให้สามารถเก็บไว้ได้นานๆ  ควรเก็บไว้ในสถานที่สะอาดไม่มีฝุ่น  โดยเอาผ้าคลุมหรือใบตองคลุมกระจาดหรือเข่งให้มิดชิดทิ้งไว้ที่อุณหภูมิห้อง(25-37  องสาเซลเซียส)อากาศถ่ายเทสะดวก ห้ามเก็บไว้ในสถานที่มีอุณหภูมิเย็น (น้อยกว่า 20 องศาเซลเซียส) เพราะจะทำให้แป้งคืนตัวปล่อยน้ำออก  เส้นแฉะ  และขาดง่าย มีลักษณะเหมือนแป้งไม่สุก



 
2. ใส่ถุงแล้วแช่ตู้เย็น เวลาจะทานก็ใส่ไมโครเวฟ

3. อีกสูตรนึง เอาไปแช่น้ำให้เส้นขนมจีนคลายออกจากกัน จากนั้นเอาไปผึ่งแดดให้แห้งสนิทแล้วเก็บใส่ภาชนะสูญญากาศ...เวลาจะกินก็เพียงแช่น้ำให้เส้นมันอ่อนตัว ถ้าไม่มากเรื่องก็กินได้ แต่ถ้าเรื่องมากก็เอาไปลวกน้ำร้อนก่อน..สูตรนี้เคยทำส่งไปสหรัฐมาแล้วจ๊ะ...




4. ที่บ้านผมจะใส่ไว้บนตะแกรงแล้วเอาของรองเอาไว้ไม่ให้น้ำมันเปื้อน แล้วเอาไปแช่ตู้เย็นครับ ถ้าจะกินก็เอามาลวกน้ำร้อนใหม่ แล้วก็เทใส่ตะแกรงสะเด็ดน้ำ ถ้าไม่ห่วงสวยงามก็กินเลย ถ้าจะเอาสวยงามก็มานั่งจับจีบใหม่ครับผม ทำแบบนี้จะได้รสชาติของขนมจีนเหมือนซื้อมาใหม่ๆเลยครับและเก็บไว้ได้นานด้วย


5. ขนมจีนเป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการนำข้าวเจ้ามาโม่และทับน้ำ จากนั้นก็นำมานวดหรือหมักก่อนก็ได้ แล้วโรยเป็นเส้นในน้ำเดือด เส้นที่สุกแล้วจะลอยขึ้นมา ตักใส่ในน้ำเย็นนำขึ้นมาจับเรียงเป็นรูปร่างตามต้องการ ขนมจีนเป็นที่นิยมกันมากในงานทำบุญ เพราะรับประทานง่ายและอร่อยส่วนมากจะรับประทานคู่กับน้ำพริก น้ำยา แกงเขียวหวานฯลฯ ในกรณีที่รับประทานไม่หมด ลองนำเส้นขนมจีนมาตากแดดให้แห้งแล้วนำไปประกอบอาหาร เช่น ทอดให้กรอบเพื่อรับประทานแทนเส้นหมี่กรอบในก๋วยเตี๋ยวราดหน้า ก็อร่อยไม่แพ้กัน






ขนมจีน ถ้ากินไม่หมด ก็นำมาตากแห้ง แห้งแล้วก็ร้อยไว้เป็นพวงแบบนี้  ดูดีไม่เบานะ




read more

Monday, 30 July 2012

แตงกวาดอง มามะ..มาดองกัน-วิธีทำสูตรง่ายๆ

หวัดดีค่ะ วันนี้จะมาชวนทำแตงกวาดองค่ะ

แตงกวาดอง หรือที่ฝรั่งเขาเรียกว่า pickle นั่นแหละค่ะ
เป็นของโปรดอย่างนึงของน้ำหวานเลยล่ะ คิดว่าหลาย ๆ คน
ก็น่าจะชอบเหมือนกัน

เอาไปใส่ในเบอร์เกอร์บ้าง แซนวิชบ้าง อืมมม....อร่อยดีนะ
หรือจะเอามาแทะเล่น ๆ ก็กลายเป็นของว่างได้เป็นอย่างดี
เลยล่ะ

ยิ่งช่วงก่อนมีประจำเดือนนะ เวลาอยากกินไรเปรี้ยว ๆ ก็คว้าแตงกวาดองนี่แหละค่ะมาแทะเล่น

จริง ๆ อ่ะ ซื้อแบบสำเร็จรูปกินเอาก็ได้หรอก ราคาไม่แพงเท่าไหร่...แต่ลองทำกินเองดูบ้่างจะเป็นไรไป....เนาะ

วันนี้น้ำหวานเลยจะเอาวิธีทำแตงกวาดองแบบง่าย ๆ มาฝากค่ะ

ง่ายมาก ๆ ค่ะ อร่อยด้วย ดองไม่กี่วันก็กินได้แล้ว ....ไปดองกันเลยจ้าาาาาาาาาาา......



นี่คือแตงกวาที่น้ำหวานจะใช้ค่ะ เค้าเรียกกันว่า pickling cucumber
แต่ถ้าไปตลาดจะเห็นเค้าเรียกกันว่า Kirby (แหม่...พูดถึง kirby แล้วอยากเล่นเกม)

หน้าตามันก็...เหมือนแตงกวานี่แหละค่ะ (เอ๊านังนี่!!...แล้วจะให้มันเหมือนฝรั่งเหรอ)
ผิวเค้าจะเขียวเข้มปี๋ แถมมีตะปุ่มตะป่ำเต็มไปหมด นิยมเอาไปดองกันค่ะ
กินสดก็ได้ค่ะ แต่ไม่ค่อยอร่อย...แหะ ๆ



น้ำหวานใช้ประมาณ 6 ลูกครึ่งค่ะ (ไม่ใช่ไรหรอก...ยัดไม่ลง...มันแน่นขวด 555)
เอาแตงกวาไปล้างน้ำเย็นให้สะอาด ล้างทีละลูกเลยนะคะ เสร็จแล้วพักไว้ค่ะ




หลายอาจสงสัยว่าไอ้หัวผักชีลาวเป็นยังไง
....มันคือไอ้นี่ค่ะ.... หัวอย่างใหญ่เลย....ถ้าไม่มีก็ไม่ต้องใส่นะคะ
ใช้แค่ 2 ชต. แล้วที่เหลือตูจะเอาไปทำอะไรละเนี่ย....ฮ่วย




ซอยก้านผักชีลาว กับหัวผักชีลาวให้เป็นชิ้นเล็ก ๆ นะคะ




นี่คือเจ้าเม็ด mustard ค่ะ แต่อย่างที่บอกนะคะ ถ้าไม่มี...ไม่ต้องใส่ค่ะ!!
ให้ใช้ "ลูกผักชี" แทนนะคะ เผลอ ๆ หอมกว่าอีก หรือจะไม่ใส่เลยก็ได้ค่ะ




slice กระเทียมให้เป็นแผ่นบาง ๆ
จากนั้น ใส่ผักทุกอย่างที่หั่นไว้ รวมทั้งเม็ดมัสตาร์ดหนึ่งช้อนโต๊ะลงไปในโหลแก้วที่เตรียมไว้นะคะ



ไม่ต้องใส่เยอะนะคะ กะ ๆ ดูให้มันอยู่ที่้ก้น ๆ โหล



ยงแตงกวาที่ล้างแล้วลงไปในขวดค่ะ ใครชอบดองทั้งลูกก็ใส่ลงไปทั้งลูกเลยนะคะ
หรือใครชอบแบบเข้าเนื้อจัง ๆ ก็หั่นเป็นซีัก ๆ แล้วค่อยใีส่ลงไปก็ได้ค่ะ




อัดเข้าไปให้เต็มขวด แนะนำให้ใช้ขวดแก้วในการดองนะคะ
แต่ถ้าไม่มี หรือมีไม่ใหญ่พอ จะใช้กล่องพลาติกหนา ๆ ใส ๆ ดองก็ได้ค่ะ
เห็นตามร้านค้าเค้าดองใส่ถังพลาสติกใสอันเบ้อเร่อเลย
****ควรจะลวกโหลแก้วในน้ำร้อนประมาณ 15 นาที เพื่อเป็นการฆ่าเชื้อโรคก่อนนำมาใช้ค่ะ****



อ่ะ...ขั้นตอนสำคัญ น้ำดองค่ะ นำน้ำเปล่า น้ำส้มสายชู เกลือ ผสมกัน
นำไปตั้งไฟให้เดือดแค่พอปุด ๆ นะคะ จากนั้นปิดไฟค่ะ




เทน้ำดองลงไปในขวดให้ท่วมแตงกวา เทไปทั้งร้อน ๆ นั้นแหละค่ัะ ปิดฝาขวดให้สนิท
แล้ว "คว่ำ" ขวดลง ทิ้งไว้ 15 นาทีนะคะ เพื่อเป็นการไล่อากาศที่ปากขวดค่ะ




15 นาทีผ่านไป ก็ค่อยหงายขวดกลับขึ้นมาเหมือนเดิมนะคะเป็นอันเสร็จสิ้นกระบวนการดองค่ะ
.....จากนี้ไป....- ให้วางขวดแตงกวาดองไว้ที่อุณหภูมิห้องประมาณ 3-4 วัน อย่านานกว่านั้นไม่งั้นมันจะเปรี้ยวโดดค่ะ
- จากนั้นเก็บเข้าตู้เย็นตามปกติ ทิ้งไว้อีก 3-4 วัน ก็เอาออกมากินได้แล้วค่ะ



1 อาทิตย์ผ่านปายยยยยยยยยยยยย แตงกวาดองของไอ้น้ำหวานก็เปลี่ยนสี




สำหรับน้ำดองที่ไม่เปรี้ยวไม่เค็มเกินไปสไตล์ BLUE RIBBON ขอแนะนำให้ใช้ Dill Pickles Brine

- น้ำส้มสายชู 2 1/4 ถ้วย
- น้ำเปล่า 8 1/2 ถ้วย
- เกลือ 1/2 ถ้วย

นอกจาก ผักชีลาวสด, กระเทียม, ลูกผักชี และเมล็ดมัสตาร์ด ขอแนะนำให้ใช้พริกไทยดำ และ พริกแห้ง (ถ้าชอบเผ็ดนิดๆหน่อยๆ) ด้วยลองดูอร่อยแน่นอน


....ผ่างงงงงงงงงงงงงงง.....เอามาชิมก่อนก็ครึ่งนึง สีไม่ค่อยเหลืองเท่าไหร่เลยเนาะ




งั่บบบบบ!!!!.....ตาอ้วนของน้ำหวานไม่รอช้า พอคว้าได้ พี่แกกัดทันที

.....ปรากฏว่าอร่อยค่ะ ....!!! เย้ มีกำลังใจดองรุ่นต่อไปแล้วเรา อิ ๆ
ขอบคุณทุกคนที่แวะเข้ามานะคะ




ที่บ้านทำตั้งเยอะค่ะ แต่ทำแบบสไลด์นะคะ ได้กินไปไม่เยอะเท่าไร คุณสีมา เททิ้งค่ะ
แบบว่า...เค้าบอกว่า มันเสีย เพราะอากาศร้อน เสียดายมาก เพราะทำตั้งเยอะค่ะ










read more

Saturday, 28 July 2012

การผลิตขนมจีนกึ่งสำเร็จรูป-เทคโนโลยีการผลิต

เนื่องจากขนมจีนเป็นอาหารที่มีอายุการเก็บรักษาสั้นเพียง 1-2 วัน จึงไม่สามารถเก็บรักษาและส่งจำหน่ายไปยังพื้นที่ห่างไกลหรือส่งออกไปต่างประเทศได้ จึงมีการคิดที่จะพัฒนาผลิตภัณฑ์ขนมจีนแห้งกึ่งสำเร็จรูป เพื่อช่วยถนอมรักษาผลิตภัณฑ์ให้สามารถเก็บได้นาน มีน้ำหนักเบาและสะดวกในการขนส่ง และเก็บเป็นเสบียงในการเดินทางไกลหรือส่งออกไปต่างประเทศ เพื่อให้คนไทยในต่างแดนและชาวต่างชาติที่ชอบอาหารไทยสามารถรับประทานเส้นขนมจีนแท้ร่วมกับน้ำยา 

โดยการต้มในน้ำเดือดประมาณ 8-10 นาที ซึ่งจะช่วยให้ผู้บริโภคมีความสะดวกที่จะรับประทานขนมจีนที่ถูกสุขอนามัยและปลอดภัยได้ตลอด และเพื่อให้ได้การยอมรับจากผู้บริโภค จึงได้มีการออกแบบบรรจุภัณฑ์สำหรับเส้นขนมจีนแห้งและน้ำยาผงในซองเดียวกัน ซึ่งมีการจดสิทธิบัตรกรรมวิธีผลิตเส้นขนมจีนกึ่งสำเร็จรูปไว้กับกรมทรัพย์สินทางปัญญาแล้วเมื่อเดือนตุลาคม 2544








จากการทดลองผลิตเส้นขนมจีนสดด้วยกรรมวิธีแบบดั้งเดิมที่มีปัญหาในการแยกเส้นไม่ให้ติดกันและด้านคุณภาพของเส้น จึงทำให้มีการคิดกรรมวิธีใหม่ในการผลิตเส้นขนมจีนอบแห้งจากข้าวเจ้าไทยแท้ โดยเริ่มจากการอบแห้งพันธุ์ข้าวไทยแท้ที่มีปริมาณอะมิโลส สูงกว่า 25 เปอร์เซ็นต์ จากนั้นทำความสะอาดปลายข้าวเจ้า แช่และหมักข้าวประมาณ 3-4 วัน แล้วบดข้าวพร้อมน้ำจนได้น้ำแป้งและน้ำในปริมาณที่เหมาะสม แล้วนึ่งแป้งให้สุกซึ่งใช้ปริมาณน้ำในการนึ่งแป้งให้สุกประมาณ 20-25 เปอร์เซ็นต์ ของน้ำหนักแป้งชื้น แล้วนำแป้งมานวดขึ้นรูปเส้นขนมจีนแบบเส้นตรงหรือก้อนสี่เหลี่ยม

สำหรับสภาวะที่เหมาะสมในการทำแห้งเส้นขนมจีนอยู่ที่อุณหภูมิ 70 องศาเซลเซียส นาน 30 นาที แล้วอบแห้งที่อุณหภูมิ 50 องศาเซลเซียส นาน 1 ชั่วโมง สำหรับการบริโภคเส้นขนมจีนชนิดเส้นตรงนั้นจะต้องมีการคืนรูปโดยการแช่ขนมจีนในน้ำ 5 นาที แล้วต้มในน้ำเดือดนาน 8 นาที โดยไม่ต้องแช่น้ำ

ส่วนขนมจีนชนิดก้อนสี่เหลี่ยมจะแช่ในน้ำ 5 นาที แล้วต้มในน้ำเดือดนาน 10 นาที จากนั้นก็ใส่น้ำยาผง ซึ่งมีทั้งน้ำยาปลาช่อน น้ำยาปักษ์ใต้ น้ำยาเจและน้ำพริก ให้ผู้บริโภคได้เลือกรับประทานตามใจชอบในซองบรรจุภัณฑ์เดียวกัน โดยจำหน่ายขนมจีนอบแห้งสำเร็จรูปในราคาซองละ 15 บาท

จากการทำขนมจีนอบแห้งแบบกึ่งสำเร็จรูปที่ทำจากแป้งข้าวเจ้าพรีเจลาติไนซ์ผสมกับแป้งข้าวเจ้าและน้ำในอัตราส่วน 15 :85 :140 โดยใช้วิธีทำแห้ง 2 วิธีคือ

การอบแห้งในตู้อบแบบถาด (ได้เส้นขนมจีนค่อนข้างแข็ง สีเหลืองนวล) และการใช้วิธีแช่แข็ง-คืนรูปแล้วจึงอบแห้งในตู้อบแบบถาด(ได้เส้นขนมจีนค่อนข้างเปราะ สีขาวขุ่น)



และจากการเก็บขนมจีนอบแห้งไว้ในถุงพอลิเอทิลีน 3 สัปดาห์ พบว่า ขนมจีนอบแห้งทั้ง 2 แบบ จะดูดซึมความชื้นภายในถุงเพิ่มขึ้นจนมีความชื้นของเส้นประมาณร้อยละ 8 จึงคงที่ ในการคืนรูปของขนมจีนอบแห้งนั้น

ปรากฏว่าขนมจีนอบแห้งแบบแรกใช้เวลาคืนรูปในน้ำเดือด 10 นาที นานกว่าแบบที่ 2 (7 นาที) และดูดซึมน้ำกลับได้ร้อยละ 91.47 น้อยกว่าแบบที่ 2 (ร้อยละ 107.02)

สำหรับการออกแบบบรรจุภัณฑ์ขนมจีนอบแห้งกึ่งสำเร็จรูปได้คำนึงถึงความแข็งแรงในการป้องกันการแตกหักของเส้นขนมจีน ความสะดวกในการนำออกมาบริโภค และมีสีสันสวยงามน่าสนใจ รวมทั้งสื่อความหมายและให้ข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับการบริโภคได้อย่างถูกต้อง จึงได้ออกแบบบรรจุภัณฑ์เป็น 2 ส่วน

คือ บรรจุภัณฑ์ชั้นในที่เป็นซองพลาสติกเคลือบฟิล์ม OPP/LIDPE เพื่อป้องกันการซึมผ่านของไอน้ำ และบรรจุภัณฑ์ชั้นนอกซึ่งมีลักษณะเป็นกล่องกระดาษที่มีคุณสมบัติป้องกันแรงกระแทกจากการขนส่งโดยทำจากกระดาษดูเพลกซ์ หน้าขาวหลังเทา มีความหนา 420 แกรม นอกจากนี้ในการออกแบบกราฟิกจะเน้นที่การสื่อให้ผู้บริโภคเห็นผลิตภัณฑ์ชัดเจน โดยแสดงรูปผลิตภัณฑ์จริง


 













read more

ขนมจีนแสนสุข-ขนมจีนแช่เย็น (Chill)

มีบทความที่กล่าวถึงประวัติของขนมจีนอยู่มากมาย ซึ่งหาได้ไม่ยากใน Internet ทั้งประวัติความเป็นมา , ชนิดของเส้น , ขนมจีนแต่ละท้องถิ่น หรือแม้กระทั้ง ผักที่นำมารับประทานกับขนมจีน ก็มีบอกกล่าวกันไว้อย่างครบถ้วน
แต่สิ่งหนึ่งที่ยังไม่มีการพูดถึง หรืออาจเรียกได้ว่าเป็น นวตกรรมใหม่ของกระบวนการผลิตเส้นขนมจีน รวมถึงเป็นนวตกรรมใหม่ของเส้นขนมจีน ด้วยซ้ำไป นั่นคือ ขนมจีนแช่เย็น (Chill)
ขนมจีนแช่เย็น (Chill) คืออะไร ??   ตอบกันแบบง่าย ๆ Chill Chill ก็คือเส้นขนมจีนที่ผลิตออกมาแล้วนำไปเก็บรักษาด้วยการแช่เย็นทีอุณภูมิระดับนึง จุดประสงค์เพื่อ ยืดอายุของเส้นขนมจีนไม่ให้บูด และเน่าเสียได้ง่าย  เพราะโดยปกติแล้วเส้นขนมจีน จะมีอายุสั้น หรือเรียกได้ว่าเป็นของสด พร้อมจะเน่าเสียได้ภายในวันเดียว


ทำให้เส้นขนมจีนในท้องตลาดโดยทั่วไปนั้น มักจะใส่สารกันบูดเข้าไป เพื่อยืดอายุการเก็บรักษา แม้จะมีกฏหมายระบุออกมาว่าให้ใส่สารกันบูดได้ในปริมาณหนึ่ง  ถือว่าไม่ผิดกฏหมาย แต่เมื่อคุณรับประทานเส้นขนมจีนที่ผสมสารกันบูดเข้าไปแล้ว ใครจะรับประกันได้ว่าสารกันบูดในปริมาณตามกฏหมายนั้น จะไม่ส่งผลอะไรต่อร่างกายของคุณอย่างแน่นอน ??
ฉะนั้น การเก็บรักษาด้วยวิธีการแช่เย็น (Chill) สำหรับเส้นขนมจีนที่ไม่ใส่สารกันบูด ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่ง สำหรับการยืดอายุของเส้นขนมจีน  ซึ่งผู้บริโภคสามารถรับประทานเส้นขนมจีน Chill (แช่เย็น) ได้ด้วยวิธีการอุ่นในไมโครเวฟ หรืออุ่นด้วยวิธีการนึ่ง เพียงเท่านี้ เส้นขนมจีนที่แข็ง ๆ จากการ Chill ก็จะกลับเป็นเส้นขนมจีนนุ่ม ๆ เหมือนเส้นขนมจีนใหม่ ๆ ที่ซื้อจากในตลาด แต่สำคัญที่ว่า ความสะอาด และความปลอดภัยต่อร่างกาย นับเป็นส่วนสำคัญที่สุด ที่ผู้บริโภคควรคำนึงถึง ในการบริโภคขนมจีน

ไปดูกระบวนการผลิตของ ขนมจีน แสนสุขกัน



read more

ขนมจีนกึ่งสำเร็จรูป-สูตรของม.เกษตรศาสตร์ คณะอุตสาหกรรมการเกษตร

ขนมจีนแม่วัลลาคู่กับน้ำยาของพระอภัย ฉันใด ขนมจีนกึ่งสำเร็จรูป ก็ต้องนี่เลย สูตรจากภาควิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการอาหาร คณะอุตสาหกรรมการเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

โดย อ.อรอนงค์ วิลัยกุลและคณะ ได้วิจัยผลิตภัณฑ์ขนมจีนกึ่งสำเร็จรูปออกมาเมื่อปี 2535

มี 4 อุปกรณ์หลัก ประกอบด้วย
1.แป้งข้าวเจ้า และแป้งข้าวพรีเจลาติไนซ์แคลเซียมคลอไรด์และน้ำ
2.เครื่องชั่ง เครื่องผสม พายยาง ถาด กระชอน ผ้าขาวบางและหัวบีบเส้น
3.ตู้อบแห้ง
4.ห้องเย็น -18 องศาเซลเซียส


สำหรับวิธีทำ
1.ทำขนมจีนจากแป้งข้าวเจ้าพรีเจลาดิไนซ์ผสมแป้งข้าวเจ้าอัตราส่วน 15 : 85 และ
2.การอบแห้ง ซึ่งก็มี 2 วิธี

วิธีแรก อบแห้งในตู้อบแบบถาด โดยเรียงจับขนมจีนในถาดอะลูมิเนียมที่เจาะรูวางเป็นชั้นในตู้อบควบคุมอุณหภูมิคงที่ที่ 65 องศาเซลเซียส นาน 5 ชั่วโมง จนแห้งสนิท ทิ้งไว้ให้เย็นแล้วบรรจุถุงพอลิเอทิลีน ปิดผนึก เก็บไว้ที่อุณหภูมิห้อง

วิธีที่ 2 คือแช่แข็ง - คืนรูปแล้วอบแห้งในตู้อบแบบถาด นำขนมจีนที่จับแล้วมาเรียงในถาดแช่แข็ง
เข้าห้องเย็นที่อุณหภูมิ -18 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 12 ชั่วโมง แล้วจึงนำออกจากห้องเย็นทำให้ขนมจีนคืนตัวด้วยการตากแดดประมาณ 15 นาที เข้าอบในตู้อบที่อุณหภูมิ 65 องศาเซลเซียส 8 ชั่วโมงหรือจนแห้งสนิท ทิ้งให้เย็น บรรจุถุงพอลิเอทิลีน ปิดผนึก เก็บไว้ที่อุณหภูมิห้อง




ต่อมาปี 2543 ม.เกษตรฯ ได้มีโครงการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ขนมจีนกึ่งสำเร็จรูปเพื่อการส่งออก
โดย อ.สิริชัย ส่งเสริมพงษ์ มีแนวความคิดจะพัฒนาผลิตภัณฑ์ขนมจีนที่วางขายอยู่ทั่วไป
ให้เป็น "ขนมจีนกึ่งสำเร็จรูป" เพื่อช่วยถนอมรักษาผลิตภัณฑ์ให้สามารถเก็บรักษาได้นาน มีน้ำหนักเบา สะดวกในการขนส่งและเก็บรักษา เป็นเสบียงในการเดินทางไกลหรือส่งออกไปต่างประเทศได้

สรุปออกมาได้ 2 สูตร สูตรแรกผสมแป้งมัน 20 เปอร์เซ็นต์ สูตรสองใช้แป้งข้าวล้วนซึ่งต้องปรับปริมาณน้ำให้เหมาะสม นอกจากนี้ยังได้ศึกษาปัจจัยที่มีผลต่อคุณภาพของเส้นขนมจีน เช่นระยะเวลาในการหมัก พันธุ์ข้าว สัดส่วนของแป้งและน้ำ สภาวะในการทำแห้ง ฯลฯ เพื่อให้ได้เส้นขนมจีนกึ่งสำเร็จรูปที่มีคุณภาพคืนรูปได้ในเวลา 7 นาที

เส้นขนมจีนที่ได้จะสามารถยืดอายุการเก็บรักษาได้นานถึง 2 ปีแล้ว คณะผู้วิจัยยังได้พัฒนา "น้ำยาผงกึ่งสำเร็จรูป" บรรจุซองอะลูมิเนียมฟอยล์ เพื่อรับประทานร่วมกับขนมจีน น้ำยาผงนี้ละลายในน้ำร้อนเพียง 1 นาที ก็รับประทานได้เลย พร้อมกันยังได้ออกแบบบรรจุภัณฑ์สำหรับเส้นขนมจีนแห้งและน้ำยาผงเพื่อการส่งออกไว้เรียบร้อย


ที่มา http://info.matichon.co.th





read more

Friday, 20 July 2012

ร้านขนมจีนคุณเก่ง อำเภอโชคชัย ถ้าไปอยากให้ลอง

ร้านนี้บอกตรงๆครับ ตั้งใจไปกินเลย เพื่อนผมบอกต่อมาอีกที เขาบอกร้านนี้ ขนมจีนอร่อย อย่างนี้ก็ต้องลองดู ร้านนี้ตั้งอยู่ในตัวเมืองโชคชัย แต่ถ้าออกจากตัวเมืองโคราชไปก็ประมาณ 25 km.หลายคนคงสงสัย ไกลจังเลย แต่ถ้าเราได้ผ่านไปแถวอำเภอโชคชัยแล้วแวะเข้าไป ชิมสักหน่อย ก็คงไม่ไกลใช่มัยครับ

พูดซื่อๆตรงๆ ยากนะครับ ที่คนต่างถิ่นหรืออยู่ต่างอำเภออย่างเช่นผมจะได้แวะมาชิมร้านขนมจีน
ที่อยู่ต่างถิ่นอย่างนี้  แต่ สำหรับ คนที่อยู่ในเขตอำเภอโชคชัยยังงัยก็ต้องไปช่วยกันอุดหนุนนะครับ  


หากอยู่ไกล ตัดสินใจจะมากินขนมจีนน้ำยา ร้านคุณเก่ง ที่อำเภอโชคชัย ผมบอกตามตรงสำหรับ ตัวผมเอง อร่อยมากครับ  ต้องลองมาชิมนะครับอย่าพลาด
ถ้าคำแรกเริ่มเข้าปากรับลองครับ หมดจานแน่ๆ ร้านเปิดบริการ 7.30-18.00 น.

พูดแล้วจะหาว่าเราพูดเล่นๆ ลองมาดูกันเลยครับ
เริ่ม ที่ขนมจีนก่อนเลยครับ ที่นี่เขาม้วนเป็นคำๆ แต่คำใหญ่หน่อยนะครับ สาวๆไปกับหนุ่มไม่ต้องอายนะครับ คำใหญ่หน่อยอ้าปากกว้างๆ รับรองอร่อยครับ อ้อที่นี่เส้นขนมจีนเขาหนุ่มฉ่ำนะครับ


ต่อมามาดูร้านพี่เขาก่อนเลยครับ ร้านเล็กๆครับทำง่ายๆแต่น่านั่งนะครับ  ถ้าเพื่อนๆไปอุดหนุนเยอะรับรองครับ ร้านนี้ดูดีกว่านี้แน่ๆ

การเดินทาง
เริ่ม จากเมืองโคราช ขับตรงเลยครับ โคราช-โชคชัย พอถึงตัวเมืองขับผ่านเมืองไปเลยครับ จากตัวเมืองโชคชัย ชิดช้ายไว้นะครับ ประมาณ 1 km. จะเห็นป้าย วัดสีพุทธาราม ให้เลี้ยวช้ายเลยครับ ตรงเข้าไปประมาณ 300 m. ร้านคุณเก่งอยู่ช้ายมือครับ แวะเลยครับ ถึงแล้วขนมจีนแสนอร่อย


ไปไม่ถูกอาจทำให้หายหิวไปเลยก็ได้ ให้ติดต่อ เบอร์นี้นะครับพี่เก่งเจ้าของร้าน
Tel: 044-492-308  , Mobile : 089-8123-839




เมนูอื่นๆ ที่ชวนลอง





ขอขอบคุณ :  http://www.koratpop.com/koratpop/index.php/2009-06-11-20-17-36





read more