สร้างรายได้ปลดหนี้เงินล้าน
ใครที่มีโอกาสเดินทางไปจังหวัดนครราชสีมา ก็คงจะได้รู้จักกับ “ขนมจีนบ้านประโดก” หมู่บ้าน
ทำขนมจีนที่มีประวัติยาวนาน และปัจจุบันยังเป็นจุดขายด้านการท่องเที่ยวให้กับทางจังหวัด เพราะ
นักท่องเที่ยวเมื่อมาโคราช ต้องแวะไปชิมขนมจีนบ้านประโดก ที่เปิดเรียงรายรอให้บริการลูกค้า
อยู่หลายร้าน เรียกว่า ถนนขนมจีนกันทีเดียว และหนึ่งในนั้น เป็นขนมจีนบ้านประโดกของ “นางอำไพ นิวขุนทด” ( ป้าหยอด) เจ้าของร้านหม่อดิ๋น
นางอำไพ เล่าว่า บ้านประโดกเป็นหมู่บ้าน ตั้งอยู่ในตำบลหมื่นไวย อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งคนในหมู่บ้าน มากกว่า 70 ครัวเรือน มีอาชีพทำขนมจีนขายมานานกว่า 100 ปี เป็นสูตรการทำขนมจีนแบบโบราณ ที่ปัจจุบันก็ยังคงการทำขนมจีนแบบดั่งเดิม ซึ่งใช้แป้งหมัก ทำให้รสชาติของขนมจีน ต่างจากขนมจีนแป้งสด ที่ทำขายในปัจจุบัน ข้อเสียของขนมจีนแป้งหมักคืออายุการเก็บรักษาไม่นานและที่สำคัญต้นทุนสูงกว่า แป้งสด แต่ด้วยลูกค้ายังคงชื่นชอบขนมจีนแป้งหมัก ทำให้บ้านประโดกยังคงเอกลักษณ์การทำขนมจีน ในแบบขนมจีนแป้งหมักอยู่


ทั้งนี้ ในอดีต ชาวบ้านในชุมชนบ้านประโดก จะใช้วิธีการหาบขนมจีน เข้าไปขายตามตลาด
หมู่บ้านต่างๆ แต่ด้วยวิถีชีวิตเปลี่ยนไปการหาบขนมจีนไปขาย เป็นเรื่องลำบาก และถนนหนทางสะดวก
สบาย ผู้คนสามารถเดินทางมากินขนมจีนที่บ้านประโดกได้เลย คนที่เคยหาบขายเปลี่ยนมาเป็นการ
เปิดร้านขายแทน แรกๆมีเพียง 1-2 ร้าน เปิดอยู่ในบริเวณเดียวกันต่อมา เปิดเพิ่มอีกเรื่อย ปัจจุบันมากถึง 5 ร้าน ซึ่งรสชาติก็ขึ้นอยู่กับฝีมือของแม่ครัวแต่ละร้าน ในขณะที่เมนูคล้ายคลึงกัน ประกอบไปด้วย
น้ำยากะทิประโดก น้ำยาแกงไก่ น้ำยาป่าซาดิส น้ำยาหวาน (น้ำพริก) ส่วนเมนูอื่นๆ ได้แก่ ส้มตำ
ผัดหมี่โคราช เป็นต้น

“จุดขายของขนมจีนบ้านประโดก นอกจากเส้นขนมจีนแล้ว ก็ยังอยู่ที่น้ำยากะทิประโดก ซึ่งเป็นสูตรโบราณ ที่เกิดขึ้นมาพร้อมกับชื่อเสียงความอร่อยของเส้นขนมจีน สูตรการทำ
น้ำยากะทิ บ้านประโดก ใช้วิธีการต้มพริก และใช้เนื้อปลาช่อน ซึ่งแต่เดิมทางร้านใช้เนื้อ
ปลาช่อน แต่ด้วยราคาต้นทุนปลาช่อนค่อนข้างสูง จึงเปลี่ยนมาใช้เนื้อปลาดุกแทน ซึ่งรสชาติ
ไม่ได้ต่างจากเนื้อปลาช่อนมากนัก”

นางอำไพ เล่าถึงที่มาของร้านหม่อดิ๋น ว่า เป็นร้านขายขนมจีน ที่เปิดให้บริการอยู่ในย่านร้านขนมจีน
บ้านประโดกเช่นกัน แต่เนื่องจาก ทางร้านได้รับการคัดสรรเป็นขึ้นทะเบียนเป็นผลิตภัณฑ์โอทอปของ
จังหวัด และได้รับคัดสรรเป็นโอทอป 4 ดาวระดับจังหวัด ทำให้ได้มีโอกาสร่วมออกงานแสดงสินค้าตามที่ต่างบ่อยครั้ง และด้วยยอดขายเวลาออกงานแสดงสินค้าสูงกว่าการขายที่ร้าน ทางร้านจึงให้ความ
สำคัญกับการออกงานแสดงสินค้ามากกว่า แต่ที่ร้านก็เปิดให้บริการทุกวันเช่นกัน

ที่มาของร้านเกิดขึ้นมาจาก เดิมสามีทำอาชีพรับราชการ และตนเองก็เป็นแม่บ้าน และต้องเลี้ยงดูลูกถึง
3 คน แต่ละคนเรียนโรงเรียนเอกชน ค่าใช้จ่ายสูง มาก ตอนนั้นเป็นหนี้จำนวนมาก เพราะสามีทำงานคน
เดียว และเงินเดือนข้าราชการไม่ได้สูงมาก หลังจากสามีเสียชีวิต ตัวเองก็ต้องรับผิดชอบทุกอย่าง จึงได้
ตัดสินใจเปิดร้านขายขนมจีน โดยรับเส้นขนมจีนจากญาติที่ทำอยู่แล้ว ส่วนน้ำยาชนิดต่างๆ ก็เป็นสูตร
ของตัวเองที่ได้รับการถ่ายทอดมาจากรุ่นพ่อ แม่ อีกที่หนึ่ง มีมาปรับบ้าง เพราะเดิมโบราณจะมีแค่
น้ำยากะทิ กับน้ำยาหวาน ตอนหลังมีการทำน้ำยาป่า น้ำยาป่าซาดิส น้ำยาแกงไก่ เพื่อรองรับกลุ่มลูกค้า
ที่ชื่นชอบกินอาหารรสจัดจ้าน

หนังสือ จนจบปริญญาในโรงเรียนเอกชนได้ และที่สำคัญสามารถปลดหนี้จำนวน 2 ล้านบาท
ภายในระยะเวลาไม่กี่ปี ปัจจุบันทางร้านเปิดให้บริการมานานกว่า 10 ปี รายได้ส่วนใหญ่มาจากการ
ออกงานแสดงสินค้า มีรายได้ต่อวัน 40,000 บาท ถึง 50,000 บาท
ส่วนรายได้จากการขายที่ร้านวันละ 10,000 บาท ด้านราคาขนมจีน จานละ 30 บาท ลูกค้าที่มาใช้บริการ เป็นคนในโคราช และนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเที่ยว ก็จะแวะมากินกัน เพราะปัจจุบันต้องยอมรับว่า ขนมจีนบ้านประโดกมีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักในวงกว้างมาก ทำให้ใครที่ผ่านมาโคราชต้องแวะมากินขนมจีนบ้านประโดก
สนใจโทร. 08-1360-3259
ข้อมูลและรูปภาพจาก http://www.manager.co.th/SMEs/ViewNews.aspx?NewsID=9550000081967
No comments:
Post a Comment
ขอบคุณจ้า..