ข้อเสนอพิเศษ ลองดู

Friday, 29 June 2012

การโขลกขนมจีน ประเพณีที่ต้องอนุรักษ์ของพิจิตร

แต่ก่อนนเรื่องการทำอาหารแต่ละอย่างเป็นเรื่องยุ่งยาก ไม่เหมือนกับการทำกับข้าวสมัยนี้ แต่ก็ทำให้คนต้องมาพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน ดังเช่นการลงแขกเกี่ยวข้าว การทำบุญขึ้นบ้านใหม่ เป็นต้น 

ดังเช่นชาวบ้าน บ้านวังตายศ หมู่ที่  4 ตำบล โพทะเล อำเภอ โพทะเล จังหวัด พิจิตร ที่ต้องการรักษาประเพณีวัฒนธรรมอันดีของชุมชน

 ประวัติความเป็นมา
ขนมจีน เป็นอาหารคาวอย่างหนึ่งของไทย ประกอบด้วยเส้น เรียกว่า เส้นขนมจีน และน้ำยา หรือน้ำยาขนมจีน เป็นที่นิยมทุกท้องถิ่นของไทย คำว่า“จีน” ที่ต่อท้ายขนมนี้สันนิษฐานกันว่าน่าจะมาจากมอญ ซึ่งเรียกขนมจีนว่า “คนอมจิน” (คะนอมจิน) หมายถึง “สุก 2 ครั้ง”
ชาวบ้านหมู่ที่ 4 บ้านวังตายศตำบลโพทะเล อำเภอโพทะเล จังหวัดพิจิตร ได้เริ่มการโขลกขนมจีนรับประทานกันเองภายในหมู่บ้าน ประมาณ 5-6 ถัง จากนั้นได้มีการทำขนมจีนกันเพิ่มมากขึ้น ทำให้เกิดแนวคิดในการทำขนมจีนเพื่อเลี้ยงแขกที่มาร่วมงานสงกรานต์ในหมู่บ้าน โดยกำหนดจัดงานระหว่างวันที่ 17-18 เมษายนของทุกปี  ศาลากลางหมู่บ้าน หมู่ที่ 4 ตำบลโพทะเล อำเภอโพทะเล จังหวัดพิจิตร


วัสดุที่ใช้
1. อ่างดินเผา
2. อีโรย (เครื่องโรยขนมจีน)
3. เตาถังแกลลอน
4. กระทะ
5. กระโปง
6. ชะลอม
7. กระจาด
8. ครกไม้
9. ไม้สำหรับโขลกขนมจีน
10. หม้อ
11. ผ้าขาวบาง
12. ตะแกรง
13. ใบมะยม
14. ใบตอง
15. กะละมัง
16. ข้าวสาร


วิธีการทำ
ขั้นตอนการแช่ข้าว
1. นำข้าวสารใส่กะละมังแช่น้ำให้ท่วม พักไว้ 1 คืน
2. ตักข้าวที่แช่น้ำใส่กระโปง แล้วทิ้งไว้ 1 คืน


ขั้นตอนการทำน้ำแป้ง
1. นำข้าวที่ใส่ในกระโปง พักค้างคืนไว้ 1 คืน มาทำการบี้ให้ละเอียด แล้วนำผ้าขาวบางมากรองน้ำแป้ง
2. นำน้ำแป้งที่ได้มาใส่ในถุงแป้งโดยทิ้งให้น้ำแป้งตกตะกอน จากนั้นรินน้ำที่อยู่ด้านบนถุงออกให้หมดให้เหลือแต่ตะกอน
3. มัดปากถุงแป้งให้แน่น แล้วนำของหนักมาทับถุงแป้งไว้ ทิ้งไว้ 1 คืน



ขั้นตอนการโขลกขนมจีน
1.นำถุงแป้งที่ทับน้ำจนแห้งสนิทแล้วมาบี้ให้เนื้อแป้งแตกละเอียด

2.ปั้นเนื้อแป้งที่แตกละเอียดให้เป็นลูกใหญ่พอประมาณ

3.ก่อไฟที่เตาถังแล้วนำกระทะใส่น้ำไปตั้งไฟให้น้ำเดือด

4.นำลูกแป้งที่ปั้นไว้ใส่ชะลอม แล้วนำไปต้มในกระทะน้ำร้อนที่ตั้งไฟไว้จนเดือด ประมาณ 10-15 นาที จนลูกแป้งสุก สังเกตที่ผิวลูกแป้งจะสุกหนาเท่าเส้นตอก 1 เส้น หรือประมาณ 1 เซนติเมตร

5.พอลูกแป้งที่ต้มไว้สุกแล้วยกออกจากกระทะและนำไปล้างน้ำ 1 ครั้ง

6.นำลูกแป้งที่สุกแล้วใส่กระโปงพักไว้ จากนั้นนำไปใส่ครกไม้เพื่อโขลกให้ละเอียด

7.นำไม้มาตำลูกแป้งที่อยู่ในครกให้ละเอียด จนเนื้อแป้งเหนียว นุ่ม สังเกตจากการจับเนื้อแป้งดูความเหนียวและนุ่ม


8.เมื่อเนื้อแป้งเหนียวและนุ่มพอสมควรแล้ว นำมาใส่อ่างเพื่อทำการโน้ม (นวด) โดยผสมกับน้ำร้อนเพื่อช่วยในการนวดแป้งให้ง่ายขึ้น

9.เมื่อนวดแป้งได้ที่แล้ว สังเกตดูจากการปล่อยเนื้อแป้งให้หยดลง แล้วดูการหยดของเนื้อแป้งจากนั้นนำแป้งที่นวดเสร็จแล้วมากรองด้วยผ้าขาวบางใส่ลงไปในหม้อที่เตรียมไว้ ถ้าเนื้อแป้งเหนียวเกินไปให้ใส่น้ำผสมลงไป เพื่อลดความเหนียวของแป้งขนมจีน

10.นำแป้งที่นวดและกรองใส่ในหม้อเรียบร้อยแล้วใส่ในอีโรย หรือเครื่องโรยขนมจีน จากนั้นนำไป
โรยในกระทะน้ำร้อนที่ตั้งไว้จนเดือด

11.พอเส้นขนมจีนที่โรยลงไปในกระทะลอยขึ้นมาเหนือน้ำแสดงว่าเส้นขนมจีนสุกแล้ว ให้ใช้ตะแกรงตักเส้นขนมจีนออก แล้วนำไปล้างน้ำ 1 ครั้ง

12.นำเส้นขนมจีนที่ล้างน้ำแล้ว 1 ครั้ง ใส่ในกะละมังน้ำที่เตรียมไว้ แล้วจับเป็นหัว นำไปใส่ในกระจาดที่รองด้วยใบมะยม เพื่อนำขนมจีนไปรับประทานต่อไป



วิธีการเรียนการสอน


ชาวบ้านหมู่ที่ 4 บ้านวังตายศ เรียนรู้วิธีการโขลกขนมจีนโบราณสืบต่อกันมาจากบรรพบุรุษ
จากการเข้าร่วมประเพณีสำคัญของหมู่บ้าน ทำให้เยาวชนรุ่นหลังมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์และสืบทอดวิธีการโขลกขนมจีนแบบโบราณของหมู่บ้านต่อมาจนถึงปัจจุบัน
ประโยชน์ของภูมิปัญญาเพื่อเป็นการสร้างความสามัคคีให้แก่คนในชุมชน และเป็นการอนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณีที่ดีงามของบรรพบุรุษไว้ให้เยาวชนรุ่นหลังได้สืบทอดต่อไป



สถานที่ 
ศาลากลางหมู่บ้าน
บ้านวังตายศ
หมู่ที่/หมู่บ้าน หมู่ที่ 4
ตำบล โพทะเล อำเภอ โพทะเล จังหวัด พิจิตร

รายละเอียดการเข้าถึงข้อมูล
นายสุทิน กลิ่นทอง ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 4 บ้านวังตายศ
บุคคลอ้างอิง นางสาวปรีชญา นิลนารถ อีเมล์ p.nilnart@hotmail.com
ชื่อที่ทำงาน สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดพิจิตร
ถนน บุษบา
ตำบล ในเมือง อำเภอ เมืองพิจิตร จังหวัด พิจิตร
รหัสไปรษณีย์ 66000
โทรศัพท์ 056-612675-6 โทรสาร 056-612676

ที่มา :
http://work.m-culture.in.th/album/139482/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%82%E0%B8%82%E0%B8%A5%E0%B8%81%E0%B8%82%E0%B8%99%E0%B8%A1%E0%B8%88%E0%B8%B5%E0%B8%99%E0%B9%82%E0%B8%9A%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%93






No comments:

Post a Comment

ขอบคุณจ้า..