ข้อเสนอพิเศษ ลองดู

Monday, 18 June 2012

ขนมจีนโกอินเตอร์ แจ้งเกิด "ธุรกิจใหม่" -(ข่าวเก่า)


ขนมจีนโกอินเตอร์ แจ้งเกิด "ธุรกิจใหม่" 
11 มิถุนายน พ.ศ. 2550 



ถึงแม้ธุรกิจอาหารแปรรูปจะแข่งขันสูง แต่ยังมีช่องว่างให้ผู้ส่งออกรายใหม่ได้แจ้งเกิด วิภูษิต ทรงวุฒิศีล ทายาทธุรกิจค้าข้าว กับเส้นทางต่อยอดกิจการครอบครัวไปสู่การส่งออก "ขนมจีนอบแห้ง" ที่สามารถสร้างมูลค่าเพิ่ม 3-4 เท่าตัว

กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ :    ในบรรดาอาหารประเภท "เส้น" ขนมจีน เคยเป็นสินค้าที่หารับประทานยากในต่างแดน เพราะอายุการเก็บรักษาที่สั้น ต้องขายวันต่อวัน

  ช่องว่างในตลาดที่มีดีมานด์ แต่ยังขาดซัพพลายนี้เอง จุดประกายให้ วิภูษิต ทรงวุฒิศีล มองเห็นโอกาสธุรกิจใหม่ ทลายกำแพงข้อจำกัดเดิมๆ ด้วยการพัฒนาสินค้าใหม่อย่าง "ขนมจีนอบแห้ง"

   "คนส่วนใหญ่คิดว่า การทำขนมจีนอบแห้ง เพียงแค่ทำเส้นสุกแล้วมาอบให้แห้ง แต่วิธีนี้อายุการเก็บรักษาจะสั้นกว่า และต้องใช้แป้งมันมาผสม เพื่อไม่ให้เส้นติดกันเวลาอบ ทำให้เวลาเอาไปต้ม น้ำจะข้นมาก"

  การทำขนมจีนอบแห้ง จึงไม่ง่ายอย่างที่คิด วิภูษิต ต้องตั้งต้นจากการพัฒนาโปรดักท์ให้มีความแตกต่าง และโดดเด่นเฉพาะตัว ซึ่งใช้เวลานานถึง 4 ปี กว่าจะคิดค้นสูตรเด็ดลับเฉพาะ พร้อมออกแบบเครื่องจักรผลิตเส้นขนมจีนอบแห้ง ซึ่งได้ไปจดสิทธิบัตรเอาไว้แล้ว




วิภูษิต เล่าว่า ธุรกิจขนมจีนอบแห้ง เป็นธุรกิจใหม่ที่ต่อยอดจากธุรกิจดั้งเดิมของครอบครัว ที่กุมบทบาทผู้ค้าส่งข้าวรายใหญ่ป้อนให้กับโรงงานแปรรูปก๋วยเตี๋ยว และเส้นขนมจีนในภาคอีสานมานานกว่า 30 ปี

"ขนมจีนอบแห้ง" เป็นสินค้าแปรรูปตัวแรกที่เราทำ ที่เลือกทำตัวนี้ เพราะอาหารประเภทเส้นอื่นๆ คู่แข่งเยอะมาก รายใหม่เข้าไปทำตลาดได้ยาก ด้วยกำแพงด้านราคาค่อนข้างสูง รายเดิมที่ทำมานานได้เปรียบในการตั้งราคาต่ำ เพราะเขาเลยจุดคุ้มทุนไปแล้ว

แต่ขนมจีนอบแห้ง เป็นธุรกิจใหม่ที่ยังไม่ค่อยมีคนทำ และเทคโนโลยีนี้ในเมืองไทยยังมีคนทำได้ไม่กี่เจ้า เลยเป็นโอกาสที่เราน่าจะเข้ามาทำตลาดก่อน


พื้นฐานธุรกิจค้าข้าวของที่สืบทอดมาจากรุ่นพ่อ กลายเป็นแต้มต่อในการทำธุรกิจใหม่ จากประสบการณ์เรื่องข้าวต่างๆ ที่มีอยู่เป็นทุนเดิม ทำให้รู้ว่าต้องใช้ข้าวพันธุ์ไหน ทำเส้นขนมจีนถึงจะอร่อย 


ด้วย 2 แรงประสาน รุ่นพ่อคิดสูตร ส่วนรุ่นลูก คือ วิภูษิต ทำหน้าที่คิดเครื่องจักร จึงได้ขนมจีนอบแห้งที่ทำมาจากแป้งข้าวเจ้า 100% มีความเหนียวนุ่มเฉพาะตัว และสร้างความแตกต่างด้วยการไม่ใช้แป้งหมักและแป้งมัน สะอาด ไม่มีจุลินทรีย์ สามารถเก็บได้นานถึง 2 ปี


วิภูษิต เล่าว่า ประสบการณ์ที่เคยใช้ชีวิตเรียนอยู่ต่างประเทศ ทำให้เขามองเห็นภาพของตลาดธุรกิจอาหารเส้นแปรรูปว่าเป็นตลาดที่ใหญ่มาก โดยเฉพาะในกลุ่มชาวเอเชียที่ไปอยู่ในต่างประเทศ เพราะนอกจากจะเป็นเส้นขนมจีนที่รับประทานกับน้ำยา หรือทำอาหาร เช่น ผัดไทย ในสไตล์ไทยๆได้แล้ว ยังดัดแปลงใช้ได้หลากหลายกับอาหารเวียดนาม หรือชาติอื่นๆ 

   "ตลาดส่งออกค่อนข้างมีวอลุ่มที่ใหญ่กว่าตลาดในประเทศมาก เพราะสินค้าประเภทเส้น เป็นสินค้าของคนเอเชียอยู่แล้ว เฉพาะตัวเลขการส่งออกสินค้าข้าวแปรรูปของไทยปีๆหนึ่งมูลค่านับพันล้านบาท ขณะที่อาหารเส้นแปรรูป ไทยยังติดหนึ่งในห้าของผู้ส่งออกรายใหญ่ "

  ถึงแม้พื้นฐานครอบครัวจะทำธุรกิจค้าส่งข้าวมาถึง 30 ปี แต่การเข้ามาจับธุรกิจใหม่ ตั้งบริษัท เอ พลัส จำกัด ผลิตและทำตลาดส่งออกขนมจีนอบแห้ง ทำให้ วิภูษิต ต้องเริ่มต้นนับหนึ่งกับบทบาท  "ผู้ส่งออกมือใหม่"

  "เดิมธุรกิจที่บ้านก็ไม่เคยทำส่งออก ผมจึงต้องลุยด้วยตัวเอง แรกๆ ยอมรับว่ายาก เพราะยังไม่เคยมีประสบการณ์ และไม่เคยทราบว่าการส่งออกต้องมีขั้นตอนอะไรบ้าง"

  วิภูษิต เป็นหนึ่งในทายาทธุรกิจคนรุ่นใหม่ ที่เกาะติดช่องทางเข้าถึงการสนับสนุนธุรกิจเอสเอ็มอีจากนโยบายรัฐ หลังจากผ่านโครงการเสริมสร้างผู้ประกอบการใหม่ ของกรมส่งเสริมอุตสาหกรรมและมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เขาก็สมัครเข้าร่วมโครงการใหม่ ในหลักสูตรสร้างผู้ประกอบการใหม่เพื่อการส่งออก ของเอ็กซิมแบงก์

  แผนธุรกิจส่งออกขนมจีนอบแห้งของ วิภูษิต ยังเป็นหนึ่งในแผนธุรกิจส่งออกที่ได้รับรางวัลแผนธุรกิจยอดเยี่ยม จากเอ็กซิมแบงก์ด้วย

   " การเข้าโครงการที่เอ็กซิม ถือว่าช่วยได้เยอะ ทำให้ผู้ประกอบการใหม่ที่ไม่มีความรู้ด้านส่งออก สามารถมองเห็นภาพการทำธุรกิจที่ค่อนข้างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นขั้นตอนกระบวนการส่งออก การวางแผนสำหรับธุรกิจส่งออก และได้ทราบถึงความเสี่ยง และปัจจัยที่จะทำให้เกิดความสำเร็จในการส่งออก รวมถึงเรื่องเทอมชำระเงิน และการหาลูกค้า"

   สำหรับความโดดเด่นของแผนธุรกิจส่งออกขนมจีนอบแห้งที่วิภูษิตนำเสนอ เจ้าตัวมองว่า นอกจากตัวผลิตภัณฑ์ที่มีจุดแข็งเป็นตัวเสริมให้แผนธุรกิจมีความเป็นไปได้สูงแล้ว น่าจะมาจากการใช้ข้อมูลการตลาด และประมาณการความต้องการตลาดที่ทำให้เห็นความเป็นไปได้ในทางธุรกิจโดย นอกจากจะเจาะหาข้อมูลการนำเข้าส่งออกธุรกิจอาหารเส้นแปรรูปในตลาดเป้าหมาย เช่น สหรัฐอเมริกา ยังต้องประมวลข้อมูลจากประสบการณ์ตรง ที่เคยออกบูธพบปะกับลูกค้า

  แผนธุรกิจที่ดี ยังต้องคิดรอบด้านอย่างครบองค์ประกอบ ทุกอย่างต้องอยู่บนพื้นที่ข้อมูลที่เป็นจริง ปัญหาส่วนมากของการเขียนแผนธุรกิจ คือ เราไม่รู้ข้อมูลภาวะตลาดขณะนั้นๆ การไม่ทราบถึงความต้องการตลาดที่ชัดเจน มีผลทำให้ทิศทางการทำตลาดที่คลาดเคลื่อน

  วิภูษิต บอกว่า ถึงแม้ปีที่ผ่านมา หลังจากเริ่มทำตลาด จะมีเทรดเดอร์ที่ช่วยเป็นตัวกลางนำสินค้าไปทำตลาดส่งออกให้ในต่างประเทศในระดับที่น่าพอใจ แต่เขาเองก็ให้ความสนใจที่จะโดดเข้ามาทำตลาดส่งออกด้วยตัวเอง เพราะมองว่าจะเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่เข้ามาช่วยจัดจำหน่ายเพิ่มเติม และเติมเต็มในส่วนที่เทรดเดอร์ยังไม่ได้ทำตลาดครอบคลุม โดยปัจจุบัน โรงงานตั้งอยู่ที่จ.หนองคาย มีขนาดกำลังการผลิตรวมกันสูงสุด 15 ตันต่อเดือน

  " เอสเอ็มอีส่วนใหญ่มักจะขายส่งออกหน้าโรงงาน เพราะไม่ทราบว่าต้องทำยังไง พอพูดว่าส่งออกปุ๊บ เหมือนมีกำแพงขึ้นมา บางคนศึกษาแล้วพบความยุ่งยากก็จะเลิกล้มความตั้งใจ ไปขายผ่านเทรดเดอร์ดีกว่า แต่จริงๆ แล้ว การส่งออกด้วยตัวเอง สามารถสร้างผลกำไรได้ดีกว่า และในอนาคต ในการพัฒนากลุ่มสินค้าใหม่ๆ จะทำให้เราทราบถึงความต้องการของผู้ซื้ออย่างใกล้ชิด"

สำหรับเส้นทางการแจ้งเกิดสินค้าใหม่ อย่างเส้นขนมจีนอบแห้ง วิภูษิต ยอมรับว่า อุปสรรคแรกๆ คือ ต้องสร้างตลาดให้ได้เป็นที่ยอมรับจากผู้บริโภค ด้วยการให้ความรู้กับลูกค้าถึงข้อแตกต่าง ผลิตจากข้าวคุณภาพคัดพิเศษของไทย และนอกจากความสะดวกในการใช้ รสชาติความเหนียวนุ่มแล้ว ยังต้องชูจุดขายเพื่อสุขภาพ เพราะเส้นขนมจีนที่ทำจากข้าวเจ้า 100% มีแคลอรีที่ต่ำกว่าแป้งอื่นๆ และย่อยง่ายกว่าแป้งสาลี

ก้าวต่อไปสำหรับ วิภูษิต เขาเตรียมเดินหน้าตามแผนธุรกิจที่วางไว้ โดยลุยทำตลาดส่งออก ทั้งการออกงานแสดงสินค้าด้านอาหารในต่างประเทศ และพบปะกับผู้นำเข้าในตลาดเป้าหมาย ซึ่งตลาดที่น่าจะมีโอกาสสูง เช่น อเมริกา แคนาดา ออสเตรเลีย ซึ่งมีคนเอเชียอยู่จำนวนมาก และมีการนำเข้าสินค้าแปรรูปประเภทเส้นสูง ควบคู่ไปกับการทำตลาดในประเทศ ซึ่งขณะนี้ เริ่มขายให้กับครัวในห้างสรรพสินค้า

การเข้ามาสานต่อธุรกิจของครอบครัว ด้วยการแตกตัวธุรกิจใหม่ จากค้าข้าวสู่การแปรรูปขนมจีนอบแห้ง จึงเป็นทางโตของธุรกิจในอนาคต โดยธุรกิจแปรรูปสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มกว่าการขายข้าวได้อย่างน้อยๆ 3-4 เท่า



ดุลยปวีณ กรณฑ์แสง
From:http://www.bangkokbiznews.com






No comments:

Post a Comment

ขอบคุณจ้า..