ข้อเสนอพิเศษ ลองดู

Friday 17 June 2011

ขนมจีนน้ำยาหยวกกล้วย ชาวมอญ (Postoday)- ร้านดังประจำสะพานมอญ

สวัสดีปีใหม่ทุกท่านครับ วันนี้ผมประเดิมปีใหม่ด้วยการพาไปตะลอนชิมแถวๆ ชายแดนไทยพม่า ที่สะพานมอญ อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี

เพื่อไปชิมขนมจีนน้ำยาหยวกกล้วยอาหารขึ้นชื่อของชาวมอญที่มีมาช้านาน และไม่ได้หารับประทานได้ง่ายนักในกรุงเทพฯ นอกจากวันดีคืนดีมีงานบุญของชาวมอญ เราอาจจะได้เห็นชาวไทยเชื้อสายมอญ ทำขนมจีนน้ำยาหยวกกล้วยให้ได้รับประทานกัน



ถ้าหาไม่ได้ละก็ ผมขอแนะนำให้เดินทางไปสะพานมอญเพื่อเที่ยวชมสะพานไม้ที่ยาวที่สุดในประเทศไทย ไปชมวิถีชีวิตชุมชนชาวมอญ และทิวทัศน์ ของสามประสบ ซึ่งเป็นจุดบรรจบของแม่น้ำสามสายไหลมาบรรจบกันคือแม่น้ำซองกาเลีย แม่น้ำรันตี และแม่น้ำบีคลี่

การเดินทางมาค่อนข้างลำบากนิดหน่อยแนะนำว่าจัดทริปเที่ยวสัก 2 คืนไม่งั้นมีเหนื่อย ถึงแม้จะเป็นช่วงฤดูหนาวแต่ที่กาญจนบุรีกลางวันจะร้อนถึงร้อนมาก กลางคืนหนาวถึงหนาวจัด แค่คิดก็ครั่นเนื้อครั่นตัวพานจะเป็นหวัดแล้วครับ เข้ามาที่ร้านป้าหยิน


ขนมจีนน้ำยาหยวกกล้วยที่ผมจะมาแนะนำกันดีกว่า ร้านนี้ตั้งอยู่ทางเข้าสะพานมอญฝั่งตลาดมอญ หาไม่ยากครับเดินไปที่สะพานเจอทันที คนแถวนั้นรู้จักหมดเป็นร้านดังประจำสะพานมอญ


ว่าแล้วก็ไม่รอช้าสั่งขนมจีนน้ำยาหยวกกล้วยมาชิมกันทันที ไม่นานนักขนมจีนพร้อมเครื่องเคียงก็มาวางเรียงกันอยู่ตรงหน้าพร้อมเครื่องปรุงให้จำนวนหนึ่ง บีบมะนาว ใส่ผักตามอัธยาศัย คลุกให้เข้ากันแล้วก็เริ่มชิมไปปรุงไป รสชาตินั้นอร่อยเหมือนขนมจีนน้ำยาที่เราคุ้นเคยกันดี แต่อาจจะมีกลิ่นและรสชาติที่ผิดแผกกันออกไปบ้าง แต่โดยรวมแล้วถือว่าอร่อยใช้ได้เลยครับ

ยิ่งรับประทานกับไข่ต้มแล้วยิ่งเพิ่มรสชาติให้อร่อยยิ่งขึ้นเสียดายอย่างเดียวที่ไม่ได้เป็นไข่ต้มยางมะตูมเท่านั้นเองครับ เบ็ดเสร็จงานนี้เสียค่าขนมจีนไปเพียงจานละ 20 บาทเท่านั้น ไข่ต้มฟองละ 5 บาท เมนูอื่นๆ ของร้านก็มีโจ๊กเป็นอาหารเช้าขึ้นชื่อของที่นี่เหมือนกัน

รวมแล้วนับเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่น่าเดินเที่ยวยามเช้าอย่างยิ่ง มีข้อแม้เดียวคือจะต้องตื่นแต่เช้า ถ้าต้องการถ่ายภาพพระอาทิตย์กำลังขึ้น หรือทำบุญตักบาตร เก็บภาพสวยๆ ของสะพานมอญที่เริ่มเสื่อมสภาพไปตามกาลเวลา เดินไปจนสุดปลายฝั่งอีกด้านเพื่อรับประทานอาหารเช้าอร่อยๆ อย่างร้านป้าหยิน หรือจะเป็นร้านอื่นๆ ก็อร่อยไม่แพ้กัน เท่านี้ก็คงพอให้เราได้หายเหนื่อยพร้อมรับปีใหม่ฟ้าใสอย่างแน่นอน


ที่มา : http://www.posttoday.com/magazine.php?id=83317

No comments:

Post a Comment

ขอบคุณจ้า..