ข้อเสนอพิเศษ ลองดู

Monday 23 September 2013

กินอาหารป้องกันอัมพาต

ความดันโลหิตสูง โรคหลอดเลือดหัวใจ หัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะ เบาหวาน สูบบุหรี่ การดื่มแอลกอฮอล์ ล้วนเป็นสาเหตุสำคัญของการเกิดอัมพาตทั้งสิ้นแต่หากเข้าใจเรื่องอาหารเป็นยาแล้ว อาหารก็ป้องกันอัมพาตได้ทางหนึ่งเมื่อจำเป็นต้องลดน้ำหนัก จำกัดพลังงาน ก็กินพวกข้าว (แป้ง) และขนมหวานให้น้อยลง ควรเลือกกินผลไม้ที่ไม่หวานแทนลดไขมัน กินอาหารผัดให้น้อยลง และผัดโดยไม่ใช้น้ำมันมาก งดอาหารทอดชนิดอมน้ำมันมาก ใช้วิธีประกอบอาหารที่ไม่ต้องใช้น้ำมันบ้าง เช่น นึ่ง ย่าง อบ ยำ แกงเลียง แกงป่า แกงส้ม แกงเหลือง เป็นต้น งดแกงกะทิ งดขนมที่ปรุงด้วยกะทิข้น

งดอาหารที่มีคอเลสเตอรอลมาก เช่น มันสมองหมู ไข่ปลา ไข่แดง (ไข่ไก่-ไข่เป็ด) ตับ ไต (เซี่ยงจี๊หมู) ปริมาณจำกัด เช่น กินโจ๊กใส่ตับ 2-3 ชิ้น ไม่ใส่ไข่ กินไข่ที่มีไข่แดง สัปดาห์ละไม่เกิน 3 ฟอง ส่วน ไข่ขาวกินได้ไม่จำกัด

ใช้น้ำมันถั่งเหลืองผัดอาหาร ไม่ใช้ไฟแรง ใช้น้ำมันปาล์ม ทอดอาหารแบบไม่อมน้ำมัน เช่น ทอดปลาทู และปลาชนิดอื่น ทอดไข่ดาว หรือไข่เจียว ไม่ควรกินไข่ฟู เพราะอมน้ำมันมาก

บริโภคเนื้อสัตว์แต่เพียงพอ โดยเลือกเนื้อสัตว์ไม่ติดมันกินข้าวที่ไม่ขัดจนขาว กินข้าวเหนียวดำ ถ้ากินขนมปัง เลือกชนิดสีคล้ำ กินน้ำตาลให้น้อยลง โดยงดน้ำหวาน น้ำอัดลม งดขนม น้ำชา กาแฟ โกโก้ โอวัลตินกินผักใบสีเขียวและสีส้ม เช่น ตำลึง ยอดแค ผักบุ้ง คะน้า กวางตุ้ง ปวยเล้ง เป็นต้น
ผักสีแสดและสีแดง เช่น มะเขือเทศสุกแดง แครอต ฟักทอง พริกหยวก พริกยักษ์แดงผลไม้สีแสด เช่น มะละกอสุก มะม่วงสุก (ได้ เบต้าแคโรทีน ใยอาหาร และวิตามินซี) กินฝรั่งบ่อยๆ จะมีสารเปคติน ซึ่งเป็นใยอาหารชนิดหนึ่งอยู่มาก อีกทั้งยังมีวิตามินซีมากมาย และยังหาง่าย อีกทั้งยังช่วยลดคอเลสเตอรอล

ผักที่มีใยอาหารมาก ได้แก่มะเขือพวง สะเดา หัวปลี พริกขี้หนู เห็ดหูหนู ใบชะพลู พริกชี้ฟ้า กระเฉด กระเทียม กะเพรา แครอต โหระพา ใบกุยช่าย ชะอม ผักบุ้งไทย ถั่วฝักยาว แขนงกะหล่ำผลไม้ที่มีใยอาหารมาก ได้แก่ละมุด ฝรั่งเวียดนาม มะม่วงแรด(ดิบ) มะม่วงเขียวเสวย(ดิบ) มะม่วงแก้ว(ดิบ) กล้วยน้ำว้า กล้วยหอม กล้วยไข่ ส้มเช้ง เงาะโรงเรียนผักที่มีเบต้าแคโรทีนมาก ได้แก่ผักตำลึง ผักบุ้งจีน ใบกะเพรา กระถินยอดอ่อน ผักหวานบ้าน สะระแหน่ ใบโหระพา ใบแมงลัก ผักกวางตุ้งผลไม้ที่มีเบต้าแคโรทีนมาก ได้แก่ มะม่วงสามฤดู มะละกอสุก แตงโม กล้วยไข่นี่แหละคุณค่าของการกินอาหารเป็นยา

ขอขอบคุณข้อมูลภายใต้ความร่วมมือของสสส. และวิชาการดอทคอม

No comments:

Post a Comment

ขอบคุณจ้า..